คลังสินค้า อีกหนึ่งปัจจัยสำคัญสำหรับการประกอบธุรกิจ

ในการประกอบธุรกิจ แน่นอนว่ามีหลายปัจจัยที่ผู้ประกอบการต้องคำนึงถึง “คลังสินค้า” เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่สำคัญสำหรับผู้ประกอบการที่มีการนำเข้าส่งออก และเก็บสต๊อกสินค้าเป็นจำนวนมาก เนื่องจากการเลือกคลังสินค้าที่ดี จะมีส่วนช่วยอำนวยความสะดวกหลายด้านให้แก่ผู้ประกอบการ ซึ่งจะมีอะไรบ้าง วันนี้ JWD Group จะมาแนะนำให้ฟังกันค่ะ

1. คลังสินค้าที่มีบริการให้คำปรึกษา คิดออกแบบพัฒนาซัพพลายเชนโซลูชั่น รวมถึงดีไซน์ซอฟต์แวร์ให้ตอบโจทย์เชิงลึกของธุรกิจแต่ละราย โดยเฉพาะระบบซอฟต์แวร์ (Warehouse Management System Plus) ที่สามารถติดตามตรวจสอบสถานะของสินค้าได้ตลอดเวลาแบบเรียลไทม์ ทำงานได้ครอบคลุมไปถึงการบริหารทรัพยากรบุคคลและการจัดเก็บข้อมูลทางบัญชี

2. มีบริการคลังปลอดอากร ที่สามารถมอบสิทธิประโยชน์ต่างๆ ได้มากมาย เช่น การได้รับยกเว้นอากรทั้งขาเข้า ขาออก การค้าระหว่างผู้ประกอบการในเขตปลอดอากร สามารถทำการผลิต ผสม ประกอบ บรรจุได้ เป็นต้น รวมถึงการมีผู้เชี่ยวชาญที่สามารถให้คำแนะนำเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ด้านการงดเว้นอากรได้หลากหลายโมเดลที่ตอบโจทย์แต่ละธุรกิจ

3. มีทำเลที่ตั้งของคลังสินค้าใกล้กับโรงงานผลิต หรือใกล้กับท่าเรือ เพื่อสะดวกต่อการนำเข้าส่งออก หรือการนำสินค้าเข้าจัดเก็บ อีกทั้งยังช่วยลดต้นทุนของการขนส่งอีกด้วย

4. มีบริการเสริมอื่นๆ ที่ช่วยอำนวยความสะดวกเพิ่มเติม เช่น บริการดำเนินพิธีการทางศุลกากร บริการรถขนส่งที่เหมาะสมกับแต่ละประเภทของสินค้า บริการขนส่งข้ามแดน เป็นต้น

แต่ไม่ใช่ว่าทุกคลังสินค้าจะมีบริการครบหมดตามที่กล่าวมา ผู้ประกอบการจึงต้องเลือกผู้ให้บริการที่เหมาะสมกับความต้องการและที่สำคัญควรเลือกคลังสินค้าที่ได้รับมาตรฐานการรับรองต่างๆ เพื่อให้มั่นใจได้ว่า สินค้าที่จัดเก็บจะไม่เกิดความเสียหาย 

JWD ผู้เชี่ยวชาญด้านโลจิสติกส์และซัพพลายเชนระดับอาเซียน ด้วยประสบการณ์กว่า 42 ปี พร้อมให้คำปรึกษาและแนะนำแก่ผู้ประกอบการทุกท่านเกี่ยวกับบริการคลังสินค้าทั่วไป คลังปลอดอากร สามารถติดต่อได้ที่ 02-710-4000 หรือ Line: @jwdgroup